ความแตกต่างระหว่าง Filler กับ Botox
ข้อควรรู้ก่อนฉีด Botox หรือ Filler
หากเราจะพูดถึงการศัลยกรรม หรือการกระชับผิวหน้าผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะนึกถึง การฉีด Botox หรือ Filler เป็นอันดับต้นๆ เพราะ 2 วิธีนี้ถือได้ว่ายอดนิยมมาก ทำให้ผู้หญิงหลายคนริ้วรอยบนใบหน้าหายไป และผิวหน้าก็ตึงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะฉะนั้นเรามาทำความรู้จักกับ Botox และ Filler กันค่ะ
Botox คือ สารพิษที่สกัดมาจาก Bacteria ชนิดหนึ่ง เป็นสารพิษที่เป็นตัวเดียวกับที่เคยเป็นข่าวว่า เคยมีคนกินหน่อไม้ดองใส่ปี๊บแล้วเป็นอัมพาตตาย เพราะสารพิษตัวนี้ทำให้กล้ามเนื้อไม่ทำงาน หรือยกตัวอย่างในสมัยก่อน ที่กินไส้กรอกแล้วหายใจไม่ออกตาย ผู้ริเริ่มผลิต Botox ก็เลยมีความคิดว่าถ้าเอาสารพิษชนิดนี้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยมาทำให้กล้าม เนื้อในส่วนที่เราต้องการให้มันไม่ทำงาน รอยย่นก็จะดูดีขึ้น เพราะรอยย่นส่วนใหญ่บนใบหน้านั้นก็เกิดมาจากการแสดงสีหน้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การขมวดคิ้ว การยิ้ม การหัวเราะ ถ้าเราหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการทำงานเหล่านี้ รอยย่นก็น่าจะหายไปหรือจางไปได้ botox ยังสามารถรักษาอาการเหงื่อออกเยอะตามบริเวณมือ เท้า หรือรักแร้ ที่อาการเหล่านี้ทำให้สูญเสียความมั่นใจและเสียบุคลิกภาพ
ข้อควรระวังในการฉีด Botox ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะใบหน้าของคนเรามีกล้ามเนื้อหลายชนิด ตำแหน่งของเข็มที่ฉีด ปริมาณ Dose ของยา และตำแหน่งความลึกของเข็มที่ฉีด องค์ประกอบเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่ใช่ว่าเห็นรอยย่นอยู่ตรงไหนก็ฉีดโบท็อกซ์ลงไปตรงบริเวณนั้น เพราะมัดกล้ามเนื้อที่ควบคุมการแสดงสีหน้าที่ทำให้เกิดรอยย่นนั้นอาจอยู่คน ละตำแหน่งกับรอยย่นนั้นได้ โบท็อกซ์จะอยู่ในร่างกายคนเราประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ฉีด ความลึกหรือตื้นของจุดที่ฉีด
นอกจากนี้การฉีดโบท็อกซ์อาจเกิดผลข้างเคียงได้ หากยากระจายไปยังกล้ามเนื้อมัดที่ไม่ต้องการ จึงควรงดนวดหน้าภายหลังการฉีดและควรหลีกเลี่ยงการนอนราบภายหลังฉีด 4 ชั่วโมง ข้อสำคัญคือ ควรเลือกสถานที่ฉีดที่ไว้ใจได้ เพื่อป้องกันโบท็อกซ์ปลอม หรือจำพวกที่ไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา นอกจากนี้ ควรมีการเตรียมพร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง แต่อย่าพิจารณาเรื่องปัจจัยด้านราคาเพียงอย่างเดียว เนื่องจากสารโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ เหมือนรถตามท้องตลาดที่มีราคาหลากหลาย ฉะนั้น ควรเลือกชนิดที่เหมาะสมกับงบประมาณโดยที่ยังได้ทั้งคุณภาพและไม่เกิดผลเสียในระยะยาวด้วย
ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม (Filler) มี 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ แบบถาวรกับแบบไม่ถาวร
แบบถาวร สารที่ฉีดเป็นซิลิโคนหรือ พาราฟิน ซึ่งปัจจุบันพาราฟินห้ามฉีดเข้าร่างกายแล้วเพราะมีผลข้างเคียงสูง
แบบไม่ถาวร คือพวกคอลลาเจน อายุสั้นกว่าอยู่ได้ประมาณ 4 เดือน แต่เป็นธรรมชาติกว่า ไฮยาลูรอนิก แอซิด (กรด HA) อยู่ในร่างกายได้ประมาณ 6 เดือน – 1ปีขึ้นไป เป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายคนเช่นกัน
ความ เสี่ยงของการฉีด Filler คือ การฉีดเยอะเกินไปแล้วเข้าไปเบียดเส้นเลือดที่อยู่ตามเนื้อเยื่อ และเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งอาจจำให้เกิดการอักเสบติดชื่อและทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเกิดความเสีย หายเกิดเป็นแผลได้
สำหรับผู้ที่ต้องการปรึกษาเรื่องศัลยกรรมมาหาเราได้เลย
“เราจะเป็นกระจกแห่งความงาม ที่สะท้อนความสวยในตัวคุณ”
สอบถามรายละเอียดโปรโมชั่น จองคิวศัลยกรรม
Facebook : AreBeaute Clinic
Line : @arebeauteclinic
IG: arebeauteclinic
Tel : 02-945-4851
#AreBeauteClinic #ศัลยกรรม
#ทำหน้า #ทำนม #Botox #ทำตา
#ทำตาสองชั้น #ทำจมูก
#เสริมความงาม #คุณหมอเค
#เกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น
#มาตราฐานการแพทย์
#ร้อยไหมศัลยกรรม #ดึงหน้า
#เสริมคาง #ลดโหนกแก้ม #แก้ไขร่องแก้ม
#ยกมุมปาก #ยกคิ้ว #เสริมจมูก
#ดึงหางตา #ตัดกราม
#คุณหมอมากประสบการณ์กว่า25ปี